google.com, pub-1439861366638942, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Klong Yai Dam Eco Tourism : ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คลองยายดำ
dot dot
Klong Yai Dam Eco Tourism : ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คลองยายดำ

Chanthaburi Tourist Attraction,Thailand

Klong Yai Dam Eco Tourism
ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คลองยายดำ
 
กิจกรรม ที่น่าสนใจ
- ล่องเรือ ชมธรรมชาติ  2 ฝั่งคลอง เลียบแม่น้ำคลองยายดำ
- ชมการสาธิตการแกะหอยนางรมด้วยตัวของท่านเอง
- ชมโรงหมักน้ำปลาของกลุ่มหมู่บ้านท่าเขา
- ชมการทำเหรียญหอยนางรม สาธิตการเจียระไนพลอย
- ชมตึกแดง คุกขี้ไก่ สถานที่สำคัญของอำเภอแหลมสิงห์
- ชมหมู่บ้านทอเสื่อ
- กราบไหว้ศาลปู่ขาวยายดำ ชมหมู่บ้านคลองยายดำโดยรอบ
- ชมโรงงานทำแหวนกลไกปริศนา แหวนทองคำตามราศีเกิด
- ชมการสาธิตการทำบุหรี่จากใบจาก
- เข้าชมวัดซากใหญ่ ปฏิมากรรม ปูนปั้น
   
สินค้าเด่นประจำชุมชน
- บุหรี่จากใบจาก
- ผลไม้ตามฤดูการ เช่น เงาะ ทุเรียน
- ขนมไทยโบราณ เช่น ข้าวเกรียบอ่อน
- ปูนิ่ม พลอย หอยนางรม
 
สำหรับความเป็นมาของคลองคลองยายดำนั้นตามตำนานพื้นบ้านได้เล่าขานว่า...ย้อนอดีตไปเมื่อ พ.ศ. 2290 สองสามีภรรยาคือปู่ขาวและยายดำได้มาริเริ่มสร้างหมู่บ้านขึ้นมา ณ ริมลำคลองสาขาที่แยกต่อมาจากคลองพลิ้ว พร้อมทั้งได้สร้างวัดขึ้นด้วยซึ่งเดิมนั้นชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า "วัดคงคานาวาจร" ส่วนบางคนก็เรียกว่า "วัดท่าเรือ"
 
ปู่ขาวกับยายดำต่างก็ใช้ชีวิตเคียงคู่กันมาอย่างมีความสุข แต่มาวันหนึ่งหลานของปู่ขาวและยายดำที่ลงเล่นน้ำในคลองหน้าหมู่บ้านได้เกิดจมน้ำอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ ยายดำที่อยู่ใกล้ๆเมื่อเห็นหลานจมน้ำก็กระโดดตามลงไปช่วยทั้งๆที่ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นทำให้ต่างก็จมน้ำลงไปทั้งคู่ ปู่ขาวเมื่อมาเห็นเข้าก็กระโดดน้ำลงไปช่วยอีกแรง แต่อนิจจาปู่ขาวช่วยได้ยายดำเท่านั้น ส่วนปู่ขาวและหลานพากันจมน้ำเสียชีวิต
ยายดำแม้ว่าจะรอดตายหวุดหวิดแต่ด้วยความที่ต้องเสียหลานและสามีอันเป็นที่รัก ทำให้ยายดำตรอมใจตายตามปู่ขาวและหลานในเวลาต่อมา
 
จากเหตุการณ์นี้ชาวบ้านจึงได้สร้างศาลปู่ขาวและยายดำขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความรักที่ยายดำมีต่อปู่ขาวในบริเวณวัดคงคานาวาจร พร้อมกับเรียกขานลำคลองแห่งนั้นว่า"คลองยายดำ"ส่วนหมู่บ้านที่ทั้งคู่ริเริ่มสร้างก็เรียกว่า "บ้านคลองยายดำ" ในขณะที่วัดคงคานาวาจร หรือ วัดท่าเรือ ชาวบ้านก็เปลี่ยนมาเรียกว่า"วัดคลองยายดำ"เช่นกัน
 
นั่นคือตำนานที่มาของคลองยายดำ ซึ่งในอดีตที่บริเวณนี้เป็นท่าเรือรับส่งสินค้า และเป็นจุดพักของเรือโดยสาร โดยในปี พ.ศ. 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เอกอัครมเหสี ได้เสด็จมาแวะประทับที่ศาลา 8 เหลี่ยมริมคลองยายดำ ในการเสด็จประพาสมาทางเรือก่อนจะเดินทางต่อไปยังน้ำตกพลิ้ว
 
วันเวลาผ่านผันมากว่า 200 ปี ในขณะที่ความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทางวัตถุแห่งโลกทุนนิยมจะสยายปีกไปทั่วโลก แต่วิถีของชุมชนคลองยายดำและพื้นที่ใกล้เคียงกลับเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน หาปู หาปลา เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงหอย ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าชายเลนที่ยังคงไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์
 
และด้วยความที่คลองยายดำเป็นหนึ่งในสิ่งที่ขาดหายและเป็นหนึ่งในสิ่งที่โหยของผู้คนในผืนป่าคอนกรีต ทำให้อัจฉรา พูลชัย หรือ น้องเปิ้ล คนคลองยายดำโดยกำเนิดที่เพิ่งพกดีกรีปริญญาโทด้านการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมาหมาดๆ เล็งเห็นว่าควรจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศขึ้นในบริเวณคลองยายดำและพื้นที่ใกล้เคียง
"หนูไปเรียนกรุงเทพฯอยู่ 10 กว่าปี เห็นความแตกต่างระหว่างกรุงเทพฯกับบ้านเรา(คลองยายดำ) เพราะเห็นว่าคลองยายดำยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ มีป่าชายเลน มีประวัติศาสตร์ความเป็นมา ชาวบ้านใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมและเปี่ยมไปด้วยน้ำใจไมตรี จึงเห็นว่าน่าจะจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และโฮมสเตย์ขึ้น"
 
น้องเปิ้ลเล่าที่มาของโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศคลองยายดำ จากนั้นเธอก็ได้ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะกับชาวบ้าน ซึ่งเมื่อส่วนใหญ่เห็นด้วย เธอก็ได้ทำพิธีขออนุญาตต่อศาลปู่ขาวและยายดำ เพื่อจัดกิจกรรมท่องเที่ยวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ในจังหวัดจันทบุรี และเพื่อให้คนต่างถิ่นได้มาท่องเที่ยว เรียนรู้ สัมผัสกับวิถีชีวิตพื้นบ้านและบรรยากาศแห่งผืนป่าชายเลนที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้าน และปลูกจิตสำนึกให้ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นควบคู่ไปกับความสำคัญของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
และแล้วกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศคลองยายดำก็ถือกำเนิดขึ้นมาในต้นปี พ.ศ. 2548 สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวเด่นๆแห่งคลองยายดำที่ถือเป็นน้องใหม่ในเมืองจันทน์ก็มีการนั่งเรือชม 2 ฝั่งคลองยายดำและคลองพลิ้วซึ่งในระหว่างทางจะได้พบกับบ้านเรือนที่แต่ละบ้านจะมีที่จอดเรือขนาดเล็กอยู่ทางด้านฝั่งคลอง หรือไม่ก็สร้างเป็นขนำกลางน้ำเอาไว้เฝ้าแพปลา แพหอย
 
ครั้นพอเรือล่องออกสู่บริเวณที่ทำการประมงพื้นบ้านก็จะได้พบกับการเพาะเลี้ยงปลากะพงและปลาเก๋าในกระชังซึ่งใครสนใจจะอาหารด้วยตัวเองก็สามารถทำได้ตามสะดวก นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีการใช้โพงพาง(เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งปัจจุบันเริ่มหายาก)ดักปลา การออกตกปลา ดำปลาของชาวบ้าน ที่หากใครออกล่องเรือช่วงเย็นๆก็จะได้พบกับการออกหาหลาของชาวบ้านจำนวนมาก(ชาวบ้านแถวนี้ออกหาปลาช่วงเย็นและกลับเข้าฝั่งดึกๆ การล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้านจึงมีทั้งกลางวันลักลางคืน)
 
สำหรับอีกหนึ่งกิจกรรมอันโดดเด่นที่นักท่องเที่ยวชอบกันมากก็คือการจับหอย งมหอย โดยหอยที่ผู้จัดทัวร์พางมนั้นก็มีอาทิ หอยแครง หอยแมลงภู่ หอยหวาน ส่วนหอยที่จะพาไปจับก็คือหอยนางรมที่เลี้ยงไว้ในแพ ซึ่งย่านนี้เป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ที่พอมาถึงแพหอยก็จะมีการสาธิตการเลี้ยงหอยและเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวจับแบบเป็นๆเพื่อนำไปแกะกินสดๆกับยอดกระถินที่ให้หวานกลมกล่มลิ้นยิ่งนัก (หอยนางรมที่นี่จะตัวเล็กกว่าทางใต้ แต่รสชาติไม่แตกต่างกัน โดยช่วงเดือนมี.ค.-มิ.ย. จะมีรสอร่อย)
 
หอยอีกชนิดหนึ่งที่เป็นดาวเด่นแห่งพื้นที่ท่องเที่ยวคลองยายดำก็คือ “หอยแป๊ะ” ที่คล้ายหอยเชลล์ แต่ว่ามีเปลือกใหญ่ โดยจะพบตลอดชายฝั่งคลองยายดำ ซึ่งหากไปช่วงน้ำลดนัดท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสลงจับหอยแป๊ะธรรมชาตินำมาเป็นกับข้าว หรือกับแกล้มตามแต่ใจชอบ
ความน่าสนใจของการล่องเรือเที่ยวคลองยายดำยังไม่หมดแค่นี้ เพราะในหลายๆช่วงของเส้นทางจะมีป่าชายเลนให้ชมไปตลอด ซึ่งก็จะได้พบกับป่าจากขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านจะเก็บจากไปห่อขนม เก็บไปสานเป็นของใช้ สานเป็นตับจากมุงหลังคา ส่วนลูกจากนั้นก็นำมาเชื่อมกินเป็นของหวาน
 
ในส่วนพันธุ์ไม้อื่นๆ ก็มี จิกทะเล โกงกาง แสม ตะบูนดำ ตะบูนขาว และพันธุ์ไม้ป่าชายเลนอีกสารพัด แต่จุดที่เรือนำเที่ยวนิยมไปจอดให้นักท่องเที่ยวชมป่าชายเลนกันอย่างใกล้ชิดก็คือบริเวณ “โกฐตำหนัก” ซึ่งเป็นดงต้นลำแพนหินจำนวนมาก
และก็ใช่ว่าสิ่งที่น่าสนใจของการเที่ยวคลองยายดำจะมีเฉพาะแค่ 2 ฝั่งคลอง เพราะบนฝั่งก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างเช่น ชมการทำลอบ การทดลองแกะหอยนางรมกินกันสดๆ ชมการเลี้ยงปูนิ่ม ชมการทำจักสาน นมัสการหลวงพ่อยวนพระหุ้นขี้ผึ้งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในพื้นที่ และการขึ้นเขาชมไปยังจุดชมวิวเพื่อชมความชมของทิวทัศน์
 
สำหรับใครที่ติดใจในบรรยากาศแบบพื้นบ้าน ก็สามารถพักค้างกับชาวบ้านฝั่งเสียงน้ำและหรีดเรไรในรูปแบบโฮมสเตย์ได้ ซึ่งนี่ก็คือวิถีที่คนในป่าคอนกรีตส่วนหนึ่งโหยหาเพราะว่ามันได้ขาดหายไปจากวิถีชีวิตคนเมืองใหญ่มานานแล้ว
 
หมู่บ้านคลองยายดำ ตั้งอยู่ที่ ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวคลองยายดำนั้นมีหลายโปรแกรมให้เลือกไม่ว่าจะเป็น การนั่งเรือชม 2 ฝั่งคลองภายในครึ่งวัน การเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้านบนฝั่ง และนั่งเรือ แบบ 1 วัน หรือการพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์
 
ผู้สนใจท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่คลองยายดำสามาถติดต่อได้ที่
คลองยายดำทัวร์ : 039-363274 : 06-3748979
 
 
ที่มา : www.aboutchan.com

 




แหล่งท่องเที่ยวจันทบุรี