google.com, pub-1439861366638942, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี
dot dot
Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี

Lamp Museum, Tourist Attraction, Thailand

 
  Lamp Museum : Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ "  
   
 
  พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์  
Lamp Museum : Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี
  สำนักงานกรุงเทพฯ  
  -  
  โทรศัพท์ -  
  โทรสาร -  
       
       
  Lamp Museum : Yusuksuwan Museum
  135 ถนนปราจีนตคาม ตำบลดงขี้เหล็ก
อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี 25000
   
  โทรศัพท์
037-217551-2
   
    08-18648218    
  โทรสาร
037-218513
   
         
  Email
yusuksuwan@hotmail.com
   
         
  Website
www.yusuksuwan.com
   
   
www.yusuksuwanmuseum.com
  Facebook
www.facebook.com/YusuksuwanMuseum
  Etc., -    
 
 
    รายละเอียดโครงการ    
  พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง  
 
พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ เป็นสถานที่จัดขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ โดย คุณ ณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ และ คุณ วิภาวรรณ์ อยู่สุขสุวรรณ์ เป็นผู้มีความสนใจและรักในวัตถุโบราณต่างๆ จึงได้เก็บรวบรวมสะสมทีละเล็กละน้อยไว้ตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งสิ่งของเหล่านี้ได้จากบรรพบุรุษตกทอด และอีกส่วนก็หาซื้อเอาบ้าง ทำให้บ้านที่อยู่อาศัยเต็มไปด้วยของเก่ามากมาย
ใครผ่านไปผ่านมาก็จะบอกว่ามีของดีมากมายขนาดนี้ ทำไมไม่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ นำของเหล่านี้ไปจัดแสดงเพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้ ด้วยความคิดนี้ คุณ ณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ จึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ขึ้นมาเพื่อจะได้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวอีกที่ของจังหวัดอีกด้วย
 
Lamp Museum : Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี
 
พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ได้ตั้งตามชื่อ-สกุลของ คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ หรือที่ชาวปราจีนบุรี เรียกว่า “เฮียพันธ์” ซึ่งแต่เดิมนั้นประกอบอาชีพรับซื้อขายของเก่าจำพวกเศษเหล็กและโลหะ ในช่วงแรกๆ จะมีตะเกียงเจ้าพายุติดมากับพวกเศษโลหะจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนักและยังขายไปในราคาเดียวกับเศษเหล็กด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีคนมาซื้อได้ให้ราคาเป็นดวงซึ่งสูงกว่าการขายเป็นกิโลกรัมเหมือนเศษโลหะโดยให้ราคาดวงละ 50 บาท จึงได้คัดแยกไว้ขายให้คนที่ต้องการ เพราะเริ่มมีคนสนใจมากขึ้น เพื่อที่จะนำไปตกแต่งให้สวยงามและขายต่อให้ชาวต่างประเทศในราคาสูง ราคาจึงพุ่งขึ้นถึงดวงละ 100 บาท นับเป็นราคาที่สูงมาก
 
ในขณะนั้นคุณณรงค์จึงเริ่มสงสัยและถามผู้ที่มาซื้อจึงได้ทราบเรื่องและฉุกคิดขึ้นมาว่า หากขายออกไปจำนวนมากอาจทำให้ตะเกียงเจ้าพายุซึ่งเป็นตะเกียงที่มีเอกลักษณ์สวยงามและทนทานหมดไปจากประเทศไทยและคนรุ่นหลังอาจไม่รู้จักเพราะไม่เคยเห็นตะเกียงแบบนี้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มสะสมโดยตะเกียงดวงแรก ก็คือ ตะเกียงขนาด 150 แรงเทียน แม้จะดูเหมือนตะเกียงเจ้าพายุทั่วไปแต่เป็นแบบดวงเล็กเห็นแล้วชอบจึงเก็บเอาไว้ และเริ่มมีตะเกียงแบบแปลกๆ มากขึ้น และเพื่อนฝูง หรือคนรู้จักต่างก็ซื้อมาฝากด้วยสิ่งแรกที่เก็บสะสมจะเป็นตะเกียงแล้วจึงเริ่มสะสมสิ่งอื่นๆ ตามมาทีหลัง อาทิเช่น นาฬิกา จักรยาน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นต้น
 
ประกอบกับคุณวิภาวรรณ์ อยู่สุขสุวรรณ์ ซึ่งเป็นภรรยา คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณก็เป็นคนที่ชอบสะสมตู้เก่า ตู้โบราณที่ทำจากไม้สัก จึงทำให้มีของเก็บสะสมจำพวกตู้มากขึ้น พอเก็บสะสมได้มากขึ้นก็มีคนขอเข้าชมโดยที่ทางเราก็ไม่ได้เก็บเงิน แต่ก็เกิดความไม่สะดวกแก่ผู้เข้าชมเพราะพื้นที่แคบ และของบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะวางโชว์ได้ก็จะเห็นแต่ตะเกียงเพียงอย่างเดียวเวลาที่จะดูแลคนที่มาเยี่ยมชมก็มีน้อย เพราะจะต้องดูแลกิจการร้านสหพันธ์การค้าด้วย
 
จึงมีความคิดที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อที่จะให้คนรุ่นหลังได้เห็นได้รู้จัก และทราบถึงข้อมูลสิ่งของที่หาดูได้ยากเหล่านี้ ซึ่งสิ่งของที่จัดแสดงทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลาในการเก็บสะสมมากกว่า 30 ปี สิ่งเหล่านี้จึงถือว่าเป็นจุดกำเนิดของพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ก็ว่าได้ พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2545 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างเป็นเวลา 4 ปีเศษ เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2550
 
 
    ภายในอาคาร 5 อาคาร    
  พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง  
 
ภายในพิพิธภัณฑ์จะได้พบกับตะเกียงจำนวนมากมีแขวนอยู่ ทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นตามที่จอดรถ ร้านค้าบนเพดานตามอาคารต่างๆ  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีอาคารทั้งหมด 5 อาคาร ที่จัดแสดง ของเก่าที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนสมัยก่อน
 
อาคาร 1 อาคารราชาวดี
อาคารนี้เป็นอาคารสองชั้น ในส่วนของการจัดแสดงชั้นล่างได้จัดแสดงเกี่ยวกับสิ่งของโบราณหลากหลายชนิดอาทิ เช่น เครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง เตารีดโบราณ เครื่องปั้นดินเผา ตู้เย็นใช้น้ำมันก๊าซ เป็นต้น ในส่วนของชั้นสองเป็นชั้นที่รวบรวมตะเกียงเจ้า-พายุหลากหลายยี่ห้อ ทั้งยังมีตะเกียงที่มีการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น ตะเกียงเรือ ตะเกียงฉายสไลด์ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของส่วนประกอบตะเกียงให้ท่านได้ศึกษาอีกด้วย
 
Lamp Museum : Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี
 
อาคาร 2 อาคารลีลาวดี
อาคารนี้เป็นอาคารแฝดที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดซึ่งมีสองชั้นรวมหกห้องโดยแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นล่างประกอบไปด้วย
ห้องราชพฤกษ์ ได้จัดแสดงเกี่ยวกับถ้วยชามโบราณ ถาดกระเบื้อง โถพู ขวดน้ำมะเน็ด ซึ่งเป็นขวดน้ำอัดลมสมัยก่อน
ห้องชัยพฤกษ์ ส่วนใหญ่ของที่จัดแสดงจะเป็นเครื่องทองเหลือง อาทิ  เซี่ยนหมาก ทองเหลือง ขันลงหิน เตาน้ำมันก๊าซ ตะเกียงลาน
ห้องกัลปพฤกษ์ ใครที่ชื่นชอบเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์และรถจักรยานต้องไม่พลาด ภายในห้องนี้ได้รวบรวม รถจักรยานหลากหลายยี่ห้อรวมไปถึงรถจักรยานยนต์ที่มีหลักการทำงานเป็นสองส่วนคือการใช้เป็นจักรยาน(ถีบ)หรือเป็นรถจักรยานยนต์ก็ได้
ห้องทองกวาว ห้องนี้จะเห็นได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ เพราะภายในห้องนี้จะป็นของสะสมที่เป็นของเล่นสังกะสี โดยส่วนใหญ่ และยังมีสามล้อถีบของเด็กในสมัยก่อน ซึ่งเป็นห้องที่เด็กๆจะได้เห็นวิวัฒนาการของของเล่นอดีตจนถึงปัจจุบัน
ห้องทองหลาง ภายในห้องนี้ได้จัดแสดงในเรื่องของพระ เช่น พระ-ผง พระเหรียญ รวมถึงรูปพระเก่าไว้มากมายหลายแบบ รวมทั้งพระเครื่องที่ขึ้นชื่อของจังหวัดปราจีนบุรี
ห้องทองพันชั่ง เป็นการรวบรวมเกี่ยวกับเครื่องคำนวณ ตราชั่งและเครื่องตวงวัดในรูปแบบต่างๆ เช่น ตราชั่งคัน ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ในการจัดแสดงของอาคารหลังนี้ ได้จัดแสดงสิ่งของไว้เป็นหมวดหมู่ โดยในแต่ละห้องจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
 
อาคาร 3 อาคารชวนชม
อาคารนี้เป็นอาคารชั้นเดียวอาคารแห่งนี้จัดแสดงในเรื่องของรูปเก่าของเมืองปราจีนบุรีในสมัยก่อน และรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จมาเยือนปราจีนบุรี ณ วัดแก้วพิจิตร และยังมีหนังสือเก่านานาชนิด เช่นหนังสือพิมพ์ที่วางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2515 หนังสือการ์ตูนและสำหรับผู้ที่ชื่นชอนในเรื่องของแสตมป์ ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงแสตมป์ที่สำคัญ ๆ ไว้หลายชุดด้วยกัน รวมถึงยังมีล็อตเตอรี่รุ่นแรกของประเทศไทยอีกด้วย
 
Lamp Museum : Yusuksuwan Museum : พิพิธภัณฑ์ตะเกียง : พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ปราจีนบุรี
 
อาคาร 4 อาคารเจ้าพายุ
อาคารนี้เป็นอาคารที่สร้างจากรูปแบบของตะเกียงเจ้าพายุ โดยมีส่วนสูงประมาณ 13 เมตร ซึ่งภายในอาคารนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเพื่อชมวิวโดยรอบได้ เมื่อทุกท่านได้พบกับของสะสมนานาชนิดที่ทำให้ท่านได้ย้อนสู่อดีตแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีสถานที่ที่ให้ท่านได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาตินั่นคือ บ่อปลา และกรงนกขนาดใหญ่ ที่มีนกสวยงามนานาชนิดให้ท่านได้ชื่นชม เช่น นกยูงไทย ในปัจจุบันหาดูได้ยากแล้วยังมีบ่อเต่ารวมไปถึงบ่อจระเข้อีกด้วย และจุดหลังสุดของพิพิธภัณฑ์ท่านจะได้พบกับอาคารสุดท้าย
 
อาคาร 5 อาคารฟ้าประดิษฐ์
ซึ่งที่นี่ท่านจะได้พบกับเรือหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเรือขุดที่ใช้ต้นไม้ทั้งต้นมาทำเรือขุดเพียงลำเดียวและภายในโรงเรือยังมีเรือนเครื่องผูก ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างจากไม้ไผ่โดยไม่ต้องใช้ตะปูหรือลวดในการก่อสร้างเลย และภายในบ้านได้จัดข้าวของเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตสมัยก่อน ให้เยาวชนได้ศึกษาอีกด้วยและนี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จะนำให้ท่านหลบพักความวุ่นวายในสังคมเมืองแล้วมาพักผ่อนพร้อมย้อนอดีตไปกับที่แห่งนี้
 
 
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.yusuksuwan.com

 




แหล่งท่องเที่ยวเขาใหญ่