Khaoyai Tourist Attraction, Thailand
National Corn and Sorghum Research Center : RaiSuwan |
ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ ไร่สุวรรณ |
|
ในปี พ.ศ. 2508 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับมอบไร่ "ธนะฟาร์ม" ซึ่งเดิมเป็นไร่ของ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ จึงได้จัดตั้งเป็นสถานีฝึกนิสิตเกษตร ชื่อว่า " สถานีฝีกนิสิตเกษตรสุวรรณวาจกกสิกิจ" เพื่อเป็นเกียรติแก่หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ ปฐมอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี ดร.สุวรรณ เกษตรสุวรรณ เป็นหัวหน้าสถานีคนแรก และให้สังกัดอยู่กับคณะเกษตร |
|
ต่อมาในปี พ.ศ. 2509 มูลนิธิร๊อกกี้เฟลเลอร์ ได้ให้ความช่วยเหลือโครงการข้าวโพดและข้าวฟ่างในประเทศแถบเอเชีย (Inter-Asian Corn and Sorghum Program) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้ร่วมมือกับกรมกสิกรรม(กรมวิชาการเกษตรในปัจจุบัน) ดำเนินการวิจัยและพัฒนาข้าวโพดและข้าวฟ่างภายใต้ความช่วยเหลือของมูลนิธิร๊อกกี้เฟลเลอร์โดยใช้พื้นที่ของสถานีฝึกนิสิตเกษตร สุวรรณวาจกกสิกิจแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติงาน ซึ่งต่อมาได้จัดตั้งขึ้นเป็น ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2512 โดยสังกัดอยู่กับสำนักงานอธิการบดี มีนายอัญเชิญ ชมภูโพธิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีฯ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติด้วย |
|
ในปี พ.ศ. 2522 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขึ้น ทั้งศูนย์วิจัยข้าวโพด และข้าวฟ่างแห่งชาติ และ สถานีฝึกนิสิตเกษตรสุวรรณวาจกกสิกิจได้โอนย้ายมาสังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ สถานีฝึกนิสิตเกษตรสุวรรณวาจกกสิกิจ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถานีวิจัยสุวรรณวาจกกสิกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้น คือการวิจัยเพื่อพัฒนาการผลิตพืชไร่เศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็ยังคงงานฝึกนิสิตซึ่งเป็นภารกิจหลักไว้ |
ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดตั้งสถาบันอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาด้านพืชศาสตร์ ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเฉพาะทางขึ้น ทั้งศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ และ สถานีวิจัยสุวรรณวาจกกสิกิจ ก็ได้โอนย้ายมาสังกัดสถาบันอินทรีจันทรสถิตย์ฯ |
|
สภาพพื้นที่ |
ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ มีพื้นที่ทั้งหมด 2,589 ไร่ มีลักษณะเป็นที่ลาดเชิงเขาหินปูน สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 360 เมตร มีภูเขาปางอโศกพาดผ่านตามแนวทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก พื้นที่ด้านหน้าเขาปางอโศกติดกับถนนมิตรภาพ มีพื้นที่ 1,389 ไร่ เป็นแปลงทดลองวิจัยที่สามารถให้น้ำชลประทานได้ตลอดปี ซึ่งน้ำที่ใช้ในการชลประทานเป็นน้ำบาดาล ส่วนด้านหลังเขาใช้เป็นพื้นที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ และเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์ มีพื้นที่ 1,200 ไร่ |
|
ลักษณะดิน |
ลักษณะดินในพื้นที่ของศูนย์วิจัยฯ เป็นดินชุดปากช่อง มีลักษณะเป็นดินเหนียวร่วนสีน้ำตาลแดง ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดด่าง(pH) ปานกลางถึงต่ำ มีธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และกำมะถันค่อนข้างต่ำ ลักษณะภูมิอากาศ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 33 องศาเซลเซียส มีลมพัดจัดตลอดปี ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 85% ปริมาณน้ำฝนประมาณ 1,000-1,200 มิลลิเมตรต่อปี ในแต่ละปีจะมีช่วงของฝนตกมาก(peak) 2 ช่วง |
|
สถานที่ตั้ง |
ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ ตั้งอยู่เลขที่ 298 บ้านปางอโศก ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ริมถนนมิตรภาพ หลักกิโลเมตรที่ 155 อยู่ในแนวเส้นรุ้งที่ 14.5 องศาเหนือ เส้นแวงที่ 101 องศาตะวันออก ที่อยู่เพื่อติดต่อประสานงานคือ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ เลขที่ 298 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30320 โทรศัพท์ 0-4436-1770-4 โทรสาร 0-4436 1108 E-mail : raisuwan@ku.ac.th |
|
โทรศัพท์ : 044-361770-4
|
โทรสาร : 044-361108
|
|
ที่มา : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : www.iicrd.ku.ac.th |