google.com, pub-1439861366638942, DIRECT, f08c47fec0942fa0 Buddha Mountain : Khao Chi Chan : เขาชีจรรย์ พัทยา
dot dot
Buddha Mountain : Khao Chi Chan : เขาชีจรรย์ พัทยา

Pattaya Tourist Attraction, Thailand

Buddha Mountain : Khao Chi Chan
เขาชีจรรย์ พัทยา
 
พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา : Bhudda Mountian
 
พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักด้วยแสงเลเซอร์บนหน้าผาของเขาชีจรรย์ ศิลปสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 130 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร มีชื่อว่า “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา”
 
สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุระบรรจุพระรัตนะบรมสารีริกธาตุ บริเวณโดยรอบตกแต่งเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวยงาม อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
 
Buddha Mountain : Khao Chi Chan : เขาชีจรรย์ พัทยา
 
ประวัติการสร้าง
จากการสำรวจของกรมทรัพยากรธรณีพบว่า เขาชีจรรย์ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1/4 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะสูงชันมากยอดเขาสูงที่สุดมีความสูง 248 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 180 เมตรจากระดับพื้นดิน เขาชีจรรย์เป็นหินเนื้อปูนประกอบด้วยหินอ่อนแคลก์ซิลิเกต, รูปเลนส์, ขนาบด้วยหินฟิลไลต์, หินฉนวน, และหินเมต้าเชิร์ต
 
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สังฆปริณายก เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็น สมเด็จพระญาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งทรงเสียดายเขาชีจรรย์ที่มีภูมิทัศน์ยิ่งใหญ่สง่างามตามธรรมชาติ แต่กำลังถูกระเบิดทำลายทุกวัน จึงทรงดำริที่จะอนุรักษ์เขาชีจรรย์ให้คงชื่ออยู่คู่กับเขาชีโอน ซึ่งมีส่วนหนึ่งอยู่ในเขตสังฆาวาสของวัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร ด้วยการสร้างพระพุทธรูปแกะสลัก บนหน้าผาเขาชีจรรย์ ให้เป็นปูชนียสถานสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2527 ถึงพุทธศักราช 2533
 
คณะกรรมการกำหนดรูปแบบพระพุทธรูปแกะสลักหินหน้าผาเขาชีจรรย์ ซึ่งตั้งโดยคณะ กรรมการพิเศษเพื่อประสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้กำหนดข้อยุติสร้างพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัยเลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตรศิลปะ สุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 109 เมตรหน้าตักกว้าง 70 เมตรฐานบัวหรือบัวบัลลังค์สูง 21 เมตรรวมความสูงขององค์พระ และบัลลังค์ทั้งสิ้น 130 เมตรเป็นแบบนูนต่ำ
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตพระราชทานนามพระ พุทธรูปว่า ” พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา ” มีความหมายว่า ” พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรื่องสว่างประเสริฐ ดุจดังมหาวชิระ ”
 
 
การจัดสร้างพระพุทธรูปแกะสลักแบ่งงานเป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนที่หนึ่ง การก่อสร้างพระพุทธรูปหน้าผาเขาชีจรรย์
ส่วนที่สอง คือการตกแต่งภูมิทัศน์รอบองค์พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์
 
งานระยะแรก เริ่มจากการสำรวจเพื่อการปรับแต่งผิวหน้าผาและเพื่อกำหนดความลึกของลายเส้นขององค์พระจากนั้นจึงระเบิดปรับ เกลา และปิดรอยแตกร้าวด้วยวัตถุชนิดเดียวกับหน้าผา จากนั้นงานระยะที่สองทำการสแกนภาพต้นแบบของพระพุทธรูปไว้ในคอมพิวเตอร์แล้วบันทึกโปรแกรมส่งไปยังสแกนเนอร์เพื่อควบคุมการยิงเลเซอร์เพื่อวาดภาพบนเขา ซึ่งการฉายแสงวาดภาพบนเขาต้องทำในเวลากลางคืนเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนให้คนงานโรยตัวด้วยเชือกลงมาจากยอดเขา แล้วใช้สีฝุ่นวาดแต้มเป็นจุดตามที่แสงเลเซอร์กำหนดไว้การก่อสร้างเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจาก ผิวหน้าผามีการแตกและช้ำมาก และฝนก็ยังได้ตกลงมาทำให้การทำงานมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ในที่สุดก็สามารถเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
 
และในวันที่31 กรกฎาคม 2539 มีการประกอบพิธีน้อมเกล้าถวายพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาเขาชีจรรย์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานมหากรุณาธิคุณเสด็จฯไปทรงประกอบพิธีเบิกพระเนตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระอุระของพระพุทธรูป เพื่อให้เกิดเป็นสิริมงคลสืบไป
 
พระพุทธรูปแกะสลัก ได้รับนามพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นามว่า “พระพุทธมหาวชิร อุตตโมภาสศาสดา” ซึ่งมีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดา ที่รุ่งเรื่องสว่างประเสริฐ ดุจดังมหาวชิระภาพ ขอสิ่งใด ได้สิ่งนั้น
 
 
ที่มา : เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์
www.khaocheechan.com

 




แหล่งท่องเที่ยวพัทยา บางแสน