|
ห้องที่ 1 การขุดพลอย |
ยุคพลอย เริ่มในช่วงปี พ.ศ.2505-2506 แม้จะเสี่ยงกับไข้มาเลเรีย การปล้นชิง ทุกคนต่างดั้นด้นกันมา คนขุดพลอยส่วนมากจะมากันเป็นกลุ่ม ญาติพี่น้อง ทั้งชายหญิง มาปลูกที่เพิงพักอาศัยอยู่ใกล้บ่อขุด ทำตัวเพิงหรือกระต๊อบจากกิ่งไม้ ใบจากและหญ้าคา พอนานเข้าการขยายตัวอยู่เป็นกลุ่ม การขุดพลอยระยะแรกเป็นการขุดด้วยมือ ใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เช่น ชะแลง อีเต้ง วิธีการขุดเป็นหลุมลึกตามสายแร่ แล้วตักดินที่ขุดได้นำมาล้างและร่อนในตะแกรงตามลำห้วยที่อยูไม่ไกลจากแหล่งพลอย เพื่อคัดแยกพลอยออกจากดินและก้อนกรวด วิธีการค้นหาพลอยมีหลายวิธี เช่น สังเกตุจากสีของดิน ดูจากขี้พลอย ซึ่งก็คือแร่ไพร็อกซินที่มีสีดำคล้ายนิลตะโก กระจายอยู่ตามพื้นดิน หรืออาจสังเกตุจากเพทาย หรือพลอยน้ำค้าง เรียกว่า ขี้พลอย เมื่อพบร่องรอยดังกล่าว จึงเริ่มลงมือขุดโดยขดหน้าดินทิ้งไปก่อน 2-3 เมตร เพราะเป็นชั้นที่ยังไม่มีพลอย เมื่อขุดต่อไปจนถึงหัวแร่ ต้องขุดเอาหัวแร่ไปร่อนดูก่อน เพราะอาจจะมีพลอยก็ได้ เมื่อขุดลงไปเฉลี่ย 50 เซ็นติเมตร ก็ถึงแร่พลอย หรือทางราชการเรียกว่า แร่รัตนชาติ ถ้าพบขี้พลอยถูกร่อนจึงจะแน่ใจว่ามีพลอย พลอยจะอยู่ในชั้นแร่รัตนชาติ ซึ่งมีความหนา 50-100 เซ็นติเมตร บริเวณใดมีพลอยน้อย คนขุดจะเรียกบริเวณนั้นว่า "พลอยห่าง" |
|
ห้องที่ 2 การร่อนพลอย |
หลังจากได้ดินที่เป็นแร่รัตนชาติขึ้นมาจึงจะนำมาล้างและร่อนในตะแกรงตามลำห้วยและลำคลอง ที่อยู่ไม่ไกลจากแหล่งพลอย เพื่อแยกพลอยออกจากดินและก้อนกรวด เรียกว่า "ร่อนพลอย" การหาพลอยในตะแกรงต้องค่อยๆกวาดด้วยมือครั้งละน้อยๆ ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า "การแยกพลอย" |
|
 |
|
ห้องที่ 3 การแยกพลอยด้วยมือยุคแรก |
ห้องนี้ เป็นการคัดแยกพลอยด้วยมือยุคแรก "การคัดแยกพลอย" ในยุคแรกนั้น การแยกพลอยทำด้วยมือ อันดับแรกก็คือ การแยกกรวดกับพลอยจากกันให้ได้ก่อน เพราะพลอยดิบที่ยังไม่ได้เจียระไน นั้น มองผ่านๆอาจเห็นเป็นแค่ก้อนคล้ายกรวด จากนั้นก็คัดขนาด และสีสัน พลอยเม็ดใหญ่จะเรียกว่า "หัวพลอย" ขายได้ราคาดี ยิ่งถ้าเป็นเม็ดที่เนื้อดี ตำหนิน้อย ก็จะยิ่งได้ราคามาก ส่วนเม็ดเล็กๆเรียกว่า "หางพลอย" ราคาถูก การขายพลอยมีหลายวิธี บางคนก็แยกพลอยเม็ด 2-3 กะรัต ขึ้นไป นำไปขายต่างหาก บางคนขายเป็นเม็ดๆ บางคนก็รวมกันขายเป็นพลอยหมู่ โดยจะมีเม็ดพลอย ประมาณ 2-3 กะรัต หรือโตกว่านั้นเป็นหัวพลอยในหมู่นั้นๆ พลอยมีหลากหลายเกรดมาก พลอยที่มีคุณภาพต่ำและเม็ดเล็ก เขาจะนำไปขายเป็นกิโลกรัม ราคาไม่เท่ากันตามคุณภาพ ขนาดและสีสัน |
|
ห้องที่ 4 การแยกพลอยด้วยเครื่อง |
ในยุคต่อมา เกิดการขุดพลอยอีกแบบหนึ่งเพื่อให้ได้ปริมาณพลอยที่มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น โดยการใช้รถตักดิน ซึ่งจะตักดินชั้นที่ไม่มีพลอยออกไป และขุดเอาชั้นหัวแร่ที่มีพลอยมากองไว้ จากนั้นใช้น้ำท่อใหญ่ฉีดล้างดินออกไป ปล่อยให้ส่วนของกรวดและพลอยไหลตามรางไปลงที่ จิ๊ก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "แย็ก" ซึ่งก็คือเครื่องแยกพลอยออกจากกรวด จากนั้นจึงใช้แรงงานคัดพลอยด้วยมือ การขุดพลอยแบบนี้เรียกว่าเหมืองฉีด การทำเหมืองวิธีนี้ทำให้ได้ปริมาณพลอยมาก และมีความแม่นยำในการแยกพลอยสูง เหมืองแบบใหม่นี้ส่งผลให้พลอยแดงที่เคยมีอยู่มากหมดไปอย่างรวดเร็ว |
|
ห้องที่ 5 ตลาดพลอย |
วงการพลอยเป็นวงการที่เกี่ยวพันกับเงินมหาศาล เป็นความรุ่งเรืองหรือตกอับของชีวิตที่เกิดขึ้นชั่วพริบตา ตลาดค้าพลอยจึงคึกคักและมีเงินสะพัดไม่ขาดสาย การค้าพลอยก็เหมือนการเสี่ยงโชค เพราะไม่มีใครรู้ว่าราคาพลอยที่แท้จริงอยู่ตรงไหน ราคาพลอยขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อส่วนมาก ผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ จึงต่างจากเพชรและทองที่ราคาค่อนข้างแน่นอนตายตัว |
|
 |
|
ห้องที่ 6 การเผาพลอย |
การเผาพลอยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไรนั้น ไม่ได้มีการบันทึกอย่างเป็นทางการ หากแต่เรื่องเล่ากันมาว่า การเผาพลอยนั้นเกิดขึ้นหลังจากไฟไหม้ใหญ่ที่อำเภอบ่อไร่ ภายหลังเพลิงสงบพบว่าพลอยที่อยู่ในกองขี้เถ้ามีสีสันเปลี่ยนไป พลอยมีสีสดสวยขึ้น ว่ากันว่า นั่นคือบทเริ่มของการเผาพลอย จนถึงปัจจุบันความต้องการของตลาดมีมากขึ้น จนพลอยสุกจากธรรมชาติไม่พอเพียง การเผาพลอยจึงแพร่หลาย และประสบความสำเร็จโด่งดังทั่วโลก |
ปัจจุบันการเผาจะใช้เตาแบบพิเศษ ที่ให้ความร้อนประมาณ 1,700-3,000 องศา เผาประมาณหนึ่งวันกับหนึ่งคืน ในพลอยบางชนิดอาจต้องใช้ถึง 3,000 องศา เลยทีเดียว เป็นวิธีการเผาพลอยอันสลับซับซ้อน มีผู้นำปรับปรุงพัฒนาเทคนิคการเผาได้มาก
|
นอกจากนี้ พลอยแต่ละบ่อ แต่ละสี ยังใช้เทคนิคการเผาที่แตกต่างออกไป และพลอยแต่ละก้อนเผาออกมา ใช่ว่าจะสวยเหมือนกันหมด ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องอาศัยภูมิรู้ ประสบการณ์ ที่สั่งสมมา สังเกตุมลทินธาตุ ( Trace Element ) หรือ บางคนเรียก "เชื้อ" ที่อยู่ในเนื้อพลอย ถ้าพลอยมีเชื้อ เผาแล้วจะให้สีสันสดใสแพร่ไปในเนื้อพลอยตลอดเม็ด
|
|
ห้องที่ 7 การเจียระไนพลอย |
การเจียระไน คือการนำพลอยดิบมาขัดตกแต่งให้เกิดเหลี่ยมมุมสวยงาม และดึงความงามของสีสันพลอยออกมา การเจียระไนพลอยมีหลักๆ 2 แบบ คือ |
เจียระไนแบบเหลี่ยม การเจียระไนแบบนี้ จะใช้กับพลอยที่มีความใส พลอยเหลี่ยม เจียระไนทั้งเม็ด เมื่อเจียระไนได้สัดส่วน สมมาตรมีความประณีตละเอียด ก็ย่อมจะสะท้อนแสงออกมาระยิบระยับ |
และการเจียระไนอีกแบบคือ เจียระไนแบบหลังเบี้ย มักจะใช้กับพลอยที่มีความทึบแสง หรือพลอยแตกร้าวมาก รูปทรงของเม็ดพลอยควรโค้งนูนงาม ได้สัดส่วน ไม่แบนราบจนเกินไป |
|